infringement of intellectual property by resource or innitiate access...more criminal ...right?ละเมิดทรัพย์ทางสมองของเรา ละเมิดเอาไปไปเพิ่มมูลค่าแล้วไม่แบ่งผลประโยชนคุ้มค่า เป็นการเอาเปรียบเจ้าของวัตถุดิบและเจ้าของความคิด สร้างสรรค์
พอดีช่วงนี้เขามีงานทรัพย์สินทางปัญญาโลกมาใช้เวทีน้อยกันที่เมืองไทยเพื่อเตรียมไปเวทีใหญ่ในสัปดาห์ต่อไป มีเรื่องน่าสนใจอยู่หลายอย่างคือว่า ประเทศน้อยๆที่นโยบายของประเทศไม่สามารถสนับสนุนให้คนที่เป็นนักคิดเพื่อให้คนอื่นทำหรือพวกนักครีเอทีฟทั้งหลายที่ถูกขโมยความคิดริเริ่มทางอินเตอรเนทและทางไซเบอร์เพื่อการค้า ส่วนเรื่องความมั่นคงจะตามมาหากว่าประเทศค้าขายได้กำไรดีคนมีรายได้ คนมีงานทำ ความมั่นคงก็จะดีไปด้วย เรื่องการเจรจาแบ่งผลประโยชน์ก็จะไม่ยากเพราะประชาชนของทุกฝ่ายได้ประโยชน์ กินดีอยู่ดี ไม่ใช่ว่าทำร้ายกันไปมา ความมั่นคงก็สามารถหาอุปกรณ์ การก่อสร้าง ทุนประเภทที่ไม่ต้องรองบประมาณประจำปี มาก่อสร้างและพัฒนาทุกระบบในสังคมได้ง่าย ไม่เพียงแต่ระบบการป้องกันตัวเองที่ดีของภาครัฐ ไม่ว่าอาวุธยุทธโธปกรณ์ หรือระบบการขนส่งทางการค้าที่ประหยัด ลดการกีดกันทางการค้าลงมา ประเทศที่สนับสนุนให้ประชาชนที่มีทุนทางทรัพยสินทางปัญญา สามารถเอาไปเป็นทุนหรือรายได้ เสมือนที่ไม่จำเป็นต้องเป็นรายได้ที่เกิดจากฐานเงินเดือนที่โดนเอาเปรียบจากการบริหารจัดการภาครัฐหรือการบริหารจัดการของนายทุนใหญ่ที่รอผลกำไรปันผลปั่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ทุกวันโอนเงินเข้าบัญชีของตน บ้างก็เป็นหุ้นส่วนสเตคโฮลเตอรของบริษัทในหลักทรัพย์ที่ค้าขายเอาเปรียบชาวบ้าน เนื่องจากมีความเชื่อมั่นว่าธุรกิจผูกขาดหรือธุรกิจการเงินที่ตนถือครองหุ้นราคาสูงสุดของตลาดและมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดมีการบริหารจัดการที่ถูกหลักธรรมาภิบาล บางธุรกิจมีชื่อตามที่จดทะเบียนเป็นชื่อของประเทสนั้นๆ แต่มีคนถือครองเป็นกิจการที่เอาเงินกำไรย้ายออกนอกประเทสจนหมดสิ้นโดยการถือแทนกัน โดยคนสัญชาติกับผู้ถือหุ้นใหญ่ของประเทศ ออกแคมเปญมาจากการลักลอบเอาข้อมูลคะแนนนิยมจากไซเบอรที่เอาสถิติของฟรีมาจากดซเชี่ยลเนทเวอค ภาครัฐที่ไม่สามารภถออกกฎหมายภายในมาคุ้มกันประโยชนจากทรัพยสินทางปัญญาของตนเองได้ไวเนื่องจากสภาที่รับงานทำกฎหมายดีๆมาช่วยพลเมืองมัวทะเลาะกัน พลอยให้ประเทศล้าหลัง เพราะไม่กล้าออกกฏหมายมาบังคับคือประโยชน์จากกำไรให้แก่ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ เนื่องจากไม่มีหลักทรัพยไม่มีบุคคลและไม่มีรายได้สูงพอกำหนด โดยคำนึงถึงแต่รายได้ปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่า ความคิดสร้างสรรคหรือสติปัญญานั้นกลายเป็นความเสี่ยง ยิ่งกว่าพวกที่มาแต่ตัวแต่เสื่อผืนหมอนใบมาสร้างกำไรมหาศาลในลักษณะนายทุนนายเงินเพื่อเอาเปรียบคนท้องถิ่นที่มีที่ดินทำกินของตัวเองแต่ไม่สามารถใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของตนในการค้นคิดผลิตของใหม่ทุกวันเพื่อทรัพย์ที่ตนถือครองอยู่มาเป็นธุรกิจทำกำไรในอนาคต พวกนายเงินพวกนี้จะปรามาสว่ามันเป็นของสาธารณะไม่สามารถทำกกำไรได้ ทำให้แหล่งเงินทุนที่มาจากตลาดหลักทรัพย์ไม่สามารถเข้าถึงนักนวัตกรรมและนักเปลี่ยนแปลงโดยการคิดนโยบาย เพื่อสร้างโอกาสอาชีพให้คนเป็นล้านๆได้มีอาชีพหรือเพื่อให้พวกตลาดทุนได้ฉวยเอาไปจากแหล่งนโยบายเพื่อสร้างเครื่องมือทางการค้าของตน
บางประเทสผู้นำเป็นนักกฏหมายและหาทางต่อรองจากพวกนายทุนนายธนาคารนักนวัตกรรมที่สร้างอุตสาหกรรมการค้าสารพัดเพื่อให้มีกองทุนที่ไม่ใช่รายย่อยนัก แต่ต้องตั้งตัวได้จริง เช่นสมมุติให้เกษตรกรเลี้ยงกบก็ไม่ใช่ให้ทุนหนึ่งหมื่นบาท แต่ได้กบกับบ่อมาหนึ่งบ่อ เจอนายทุนที่ไปกู้เงินเอาเปรียบพวกชาวบ้าน พวกสถาบันการเงินพวกนี้จะไปกราบกรานเอาเงินพวกต่างชาติหรือเงินพวกแมงเม่าในตลาดไปขอให้พวกนักตบแต่งการเงินและบัญชีพวกที่อพยพมากันเป็นขบวนจาประเทศที่เขาจัดการเรื่องการเงินเองจนสถาบันการเงินในประเทศนั้นหุ้นตกกันเป็นแถว พวกนี้เอาเงินในตลาดหลักทรัพย์มาทำฟารมกบและบังคับให้พวกคนพื้นเมืองที่เคยเป็นเจ้าของบ่อกบเล็กๆ ต้องมาเป็นแค่ลูกจ้างอย่าหวังว่าจะได้กำไรไปซื้อรถราคาแพงคันละห้าสิบล้านบาทแบบพวกที่กินกำไรจากโกดังข้าวยุ้งฉางดรงสีของบางประเทศ พวกที่เอาเงินมาลงทุนแบบนี้เริ่มปล่อยข่าวว่าเศรษฐกิจบางประเทสเริ่มดีคนมีงานทำ แต่ที่ไหนได้ คนที่เป็นแรงงานมีฝีมือต่างหากที่มีงานส่วนพวกนักค้าอาวุธสงครามที่ผ่านร้อนหนาวมานานกลับยังต้องกินเงินจากปันผลตลาดหุ้นในบางภูมิภาคที่ดูดายกับการให้เงินต่างชาติมาโกยกำไรโดยไม่เก็บภาษีหรือใช้การกักเงินไว้จนกว่าได้โครงสร้างพื้นฐานในประเทศเรียบร้อยก่อนดดยไม่ต้องไปกู้เงินทั่งในและนอกประเทศให้เสียเวลา กลายเป็นเงินกำไรเข้ากระเป๋าของพวกนักการเงินการค้านักการบริหารบ้านเมืองบางกลุ่ม คนในพื้นที่คนพื้นเมืองที่มีสติปัญญาทำภูมิปัญญาออกมาเพื่อให้เป็นการแสดงข้อคิดเห็นหรือเพื่อให้คนอื่นได้เอาไปใช้ประดยชน์กลับไม่ได้ประโยชน์ในการเข้าถึงแหล่งทุนในการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของตน
บางประเทสสนับสนุนทุกวิถีทางให้ประชาชนนำความคิดสมองใสของตนมาขึ้นทะเบียนกับท้องถิ่นมีร้านขายนวัตกรรมส่วนตนของตนเป็นพวกร้างหกสิบบาทบ้างร้านร้อยบาทบ้างร้านห้าสิบบาทบ้าง อย่างร้านขายของมียี่ห้อของบางประเทศ ขายของดีมีนวัตกรรมในราคาถูก ที่คนทั่วไปหาซื้อได้สบายกระเป๋า เอาปริมาณและความคิดสร้างสรรคไอเดียเข้าสู้ โดยมีเงินทุนจากท้องถิ่นสนับสนุนให้ตั้งตัวได้ สมมุติว่าอยากทำบ่อกบให้เป็นแบบปัจเจกบุคคล เพราะเป็นผู้ประกอบการราสยเดียว ก็มีแหล่งทุนเข้าถึงได้ มีแผนงบประมาณมีตลาดแน่นอน โดยมีลูกค้าประจำที่ไม่จำเป็นต้องไปเปิดเผยข้อมูลให้พวกสถาบันการเงินขี้ฉ้อเอาฐานข้อมูลการขอสินเชื่อไปทำแคมเปญตลาดใหม่ผลิตสินค้าใหม่เสียเลยแล้วตอบปฎิเสะไม่สนับสนุนเงินทุนเพราะรายได้ไม่พอ จะจ่ายดอกเบี้ยเงินต้น ต่อให้มีเงินบัญชีเงินสดหมุนเวียนก็ไม่สนใจเพราะอยากได้ข้อมูลของฟรีไปทำแคมเปญผลิตภัณฑ์การเงินของตัวเองดีกว่า พวกผู้ถือหุ้นราคาแพงของสถาบันการเงินพวกนี้หากำไรจากการดกงกินความคิดของนักวงาแผนนักวางนโยบายในระดับท้องถิ่นว่าไอ้พวกนี้หน้าโง่ทำงานแบบส่งพับลิคโดเมนกระจายข้อมูลข่าวสารผลประโยชน์แก่ประชาชนไปทั่ว ประชาชนทั่วไปไม่มีปัญญาเข้าถึงแหล่งทุนก้อนใหญ่อย่างไอ้พวกที่สถาบันการเงินจากตลาดหลักทรัพยของเราปล่อยเงินนี่หว่า มันมาจากประเทศไหนขอให้ประเทศต้นกำเนิดของมันสาปแช่งมันอย่าให้มันได้เหยียบกลับไปทำมาหากินในประเทสนั้นอีก เพราะประเทศที่เป็นรากของคนพวกนี้มีประชากรล้นเหลือและเขาทำให้ให้ผู้คนร่ำรวยมีกินได้เป็นส่วนๆเฉพาะพวกที่เป็นแรงงานมีฝีมือหรือนักวิชาชีพนักวิทยาศาสตรนักเทคโนโลยีนักสร้างสรรคทั้งด้านวิทยาสาสตรและศิลปะ พวกนี้ภาครัฐต้องมีนโยบายเก็บรักษาไว้ไม่ได้ให้พวกที่รับจดทะเบียนนวัตกรรมมหาศาลในประเทสของตนลากคนพวกนี้ออกใช้งานเพื่อรับค่าแรงที่สูงกว่าประเทศของตน จนประเทศรากของตัวเองใช้แต่สินค้าของไอ้พวกที่จดยี่ห้อของตัวเองส่งมาขายรวมืทั้งงานศิลปะประยุกตืพวกภาพและเสียงด้วย
ด้วยความที่รั้วของชาติต้องดูแลความมั่นคงเรื่องของข่าวกรองแต่ของแถมที่รู้ไปด้วยคือเรื่องข้อมูลนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่บริษัทนายทุนใหญ่ของโลกจะจ้างพวกนักจัดทำโปรแกรมเอาข้อมูลทางการค้าและการตลาดของดลกไปจดจัดสรรทำทะเบียนยี่ห้องานทางภาพเคลื่อนไหวเสียงการแสดงออกทั้งทางวิทยและศิลปะเป็นของตัวเอง การที่ต้องออกกฏระเบียบภายในมาเพื่อรักษาสมบัติของตนและป้องกันการละเมิดจากภายนอกเป็นเรื่องเร่งด่วนและต้องรีบ ไม่ใช่มารอให้เกิดการละเมิดเกิดขึ้นต้องให้คนกลางของแผ่นดินหรือทนายของแผ่นดินไปแก้ต่างว่าต่างมันไม่ทันการแล้ว
เรื่องเกี่ยวกับการคิดนั้นบางครั้งนักสร้างกฏสังคมและกฏทางกฏหมายนั้ยไม่ทันได้ตระหนักเหมือนกันว่าชาวบ้านนักคิดของคนในประเทสที่ไม่สามารถมีนักสกัดกั้นการเข้าถึงข้อมูลสร้างสรรคผ่านเทคโนโลยีเป็นเรื่องด่วนที่ต้องรีบทัน ต้องมีกฏระเบียบมาสกัดพวกหาข้อมูลเพื่อการค้าพวกนี้โดยด่วน ไม่ใช่ใมารอว่าทำไม่ได้ขั้นตอนนั้น ขั้นตอนนี้จนโดนขโมยความคิดไปหากินจนหมด พวกแหล่งทุนโดยอ้างการให้ประโยชน์พวกบริษัทเงินทุนปล่อยกู้ต่างชาติที่แสงวงหาเศษเงินจากเศษขี้ที่พวกเอ็นพีแอลได้ทำไว้กว่าเวลาสองปีห้าปีตามอายุความกฏหมายของเรา ไปบูชาเงินทุนต่างชาติอยู่เช่นนี้ขอให้มันฉิบหายกลับประเทศที่มาแต่ตัวประเภทเสื่อผืนหมอนใบนั่นด้วย
สำหรับบริษัทดีดีที่เขาจะให้อินเซนทีพให้กำลังใจที่หากำไรให้เขามากต้องสมนาคุณด้วยการเหมาเครื่องบินไปยกทีมเพื่อเที่ยวต่างประเทศ ต้องแยกแยะให้ออกว่าเที่ยวคือเที่ยวไม่ใช่ไปทำงาน เนื่องการทำงานประชุมเจรจาเป็นหน้าที่ของผู้บริหารผู้มีอำนาจตัดสินใจเรื่องผลประดยชน์ของประเทศชาติไม่ใช่ส่งไอ้เวรห้าร้อยที่ไหนไปก็ได้ บังเอิฐจบนอกหรือได้เงินต่างชาติอุปถัมปให้ใช้ภาษาอาณานิคมเก่งใครประเภทนี้ไปได้หมดใครไปก็ได้ กล่าวหาว่าเพื่องุปงิบกระทำการที่ไม่ชอบโดยที่นายไม่รู้หรืออย่างไร ไม่ไช่อุตริไปกับกรุ๊ปทัวส์งานภาครัฐ ไม่ใช่บริษัท์ให้อินเซนทีฟท่องเที่ยวนะ อยากเที่ยวให้ควักกระเป๋าเป็นหนี้เองหรือขอเงินชาติที่อุปภัมป์ตัวอยู่ไปรับใช้มัน อย่าเอาเงินภาษีชาวบ้านไปเที่ยวไปหมุนคืนเงินยืมไม่คืน ไม่งั้นก็ใช้บัตรเครดิตราชการการอย่างกระทรวงต่างด้าวต่างเมืองสิ้นเรื่องสิ้นเรื่องไปกับการประชุมเจรจาระดับโลก ได้น้ำได้เนื้อขับเคลื่อนงานมีนโยบายช่วยชาวบ้านชั้นกลางชั้นล่าง ไม่ใช่ไม่สามารถในการเอาเงินนายทุนในตลาดหลักทรัพย์สักแปดสิบเปอรเซนมาเป็นเงินกองกลางให้ชาวบ้านชั้นกลางชั้นล่างได้กินได้ใช้เป็นกองทุนที่ขอทุนขอสินเชื่อมาสร้างงานมั่นคงงานใหญ่ที่แข่งกับนายทุนระดับท้องถิ่นได้บ้างทั้งฐานรากและการตลาด ไม่ใช่ให้เงินเพื่อทำรายย่อยอย่างเดียว สู้ตลาดพวกนายทุนนในตลาดหลักทรัพยไม่ได้ฉวยเอาข้อมูลตลาดในอินเตอร์เนทไปหมดแล้ว ยิ่งตลาดนายทุนพวกเครื่องอุปโภคบริโภคทำตลาดล่างย่ำแย่กันไปหมด เพื่อหมดภาระพวกงานการเงินกองคลังและผู้ใหญ่เพื่อข้อพิจารณาตัวบุคคลในการไปต่างประเทศ รวมถึงงบประมาณประจำปีด้วย หากเป็นการอบรมและ ศึกษาดูงานเรียนรู้ให้พาชาวบ้านร้านตลาดที่ไม่ใช่นายทุนใหญ่ไปด้วยนายทุนช่วยจ่ายไม่ว่ากัน กลับมาเกิดความคิดไอเดียอินโนเวทีฟคิดอยากทำของหรูยี่ห้อไทยประดิษฐ์เสียบ้าง พวกช่างวิศวะสถาปัตถ์นักออกแบบต้องช่วยเขา เขาเป็นลูกครึ่งนักวิทย์และศิลปินเราจะได้มีตึกรามรถราโทรศัพท์ทีวีวิทยุดาวเทียมสื่อสารสนเทศทุกช่องทางเป็นยี่ห้อของประเทสเราบ้าง ไม่ใช่เป็นขี้ข้าบ้าภาษาอาณานิคมอยู่อย่างนั้นใช้แต่ของยี่ห้อเขามากเกินกว่าจะช่วยเศรษฐกิจที่ถดถอยเขานั้นพอสมควรแก่เหตุแล้ว เขาจะฟื้นต้องดูแลคนของเราบ้าง เหลวไหลจริง สังเกตนายที่มีอำนาจตัดสินใจคนเดียวที่ไม่มีคณะกรรมการพิจารณาเพื่อความเหมาะสมเป็นธรรมแกล้งถ่วงเรื่องเงินให้ช้าๆ ก็แค่นั้น เสียงานไปเปล่าๆกลายเป็นไม่ได้การตามเจตนาของการขับเคลื่อนการประชุมเจรจานั้นๆไปเสีย น่าจะบังคับตามหน้าที่ความรับผิดชอบในครั้งต่อไปต่อเนื่องมีระเบียบชัดเจนรวมไปยังแผนปีงบประมาณปีต่อไปสักห้าปีสิบปีไปเลย ใครไปไหนบ้างรู้หน้าที่กลับมาพัฒนาประเทสความคิดของคนให้ริเริ่มมีนโยบายได้เปรียบคู่แข่งเสียบ้าง ไม่ใช่ยัดชื่อใครก็ได้ใส่ลงไป ทำงานคือทำงานต้องให้นายที่ตัดสินใจรับผิดชอบไป ไม่ใช่กระแดะไปอยู่ได้ บ้านเมืองไม่พัฒนาเสียที พวกนักขายเงินคนอื่นที่เอาข้อมูลไปเพื่อวิเคราะสินเชื่อหรือวิเคราะห์ตลาดเหมือนกันเอาข้อมูลส่วนตัวไปเพื่อทำตลาดใหม่ของตัวเองโดยเจ้าของไม่อนุญาติ อีกทั้งยังปฎิเสธการเข้าถึงเงินทุนที่มีหลักทรัพย์ที่ทำรายได้ในอนาคต บ้าไปกับพวกที่ไม่มีหลักทรัพย์ของตัวเองสร้างตัวเลขหมุนเวียนเพื่อให้สถาบันทางการเงินปล่อยเงินพวกแมงเม่าให้ได้เงินเข้าบัญชีเดินสะพัดไม่ต่ำกว่าสิบล้านทั้งที่ไม่มีทรัพย์ประกันพวกสถาบันการเงินพวกสีเขียวสีเหลืองตัวดีนักเชียว แน่จริงออกมาทำธนาคารประชาชนช่วยชาติทำนวัตกรรมรถยนต์ยี่ห้อของตัวเองบ้างโทรศัพท์หนังบอลลีวูดของตัวเองบ้าง ของนวัตกรรมพวกนี้ไม่สนับสนุนคนชาติเดียวกันให้มีธุรกิจของตัวเองข้ามโลกกับเขาบ้าง ขอสาปแช่งไอ้พวกสถาบันการเงินประเภทนี้ให้ไปเกิดเป็นหนอนเน่าในกองอึเอนพีแอลทุกชาติไป กลายเป็นหนี้เอ็นพีแอลเน่า ที่จ้างบริษัทที่ตอแหลว่าเป็นที่ปรึกษาสินเชื่อติดตามเงินที่เป็นพีแอลที่เสียจากตลาดหลักทรัพย์ของสถาบันการเงินพวกนี้ไปหารวบรวมซื้อต่อพวกขี้ที่นายทุนไม่เอาแล้วเพราะหมดสิทธิทวงถามทางกฎหมายที่จะติดตามเอาคืนแล้วยังคุ้ยเศษมูลขี้เพื่อจะเอาเศษเงินอาจจะหลอกผู้บริโภคเพื่อจะซื้อขายขี้เสียมาเสพมูลแบ่งกันกิน ลงทุนซื้อขี้เอนพีแอลมาห้าบาททวงคืนสักห้าหมื่น กำไรเป็นกอบเป็นกำ โดยเป็นขี้ของเอนพีแอลที่ขาดอายุมูลความแล้ว หากผู้บริโภค ไม่ปรึกษาผู้คุ้มครองผู้บริโภคก็จะ เสียท่าบริษัทเฮงซวยพวกนี้ นักกฎหมายดีดีไม่เอาแล้วทำงานให้พวกนี้ เนื่องจากกลายพันธ์เป็นธุรกิจของพวกซื้อมูลขี้เก่าที่เป็นของที่พวกนายทุนที่ได้กำไรคุ้มในสถาบันการเงินได้ให้กำไรให้ปันผลผู้ถือหุ้นทั้งในและนอกประเทสไปหมดแล้วในการลงทุนปีต่อปี พวกนักที่ปรึกษาการตลาดพวกนี้ไม่สนใจกฏหมาย ออกมาบังคับไม่ได้หรือไง กฏหมายคุ้มครองผู้บริโภคสิทธิส่วนบุคคล ยังคงมีอยู่พวกนี้ซึ่งเปลี่ยนขายต่อบริษัทนู่นนี่ไปเรื่อยๆ ไอ้พวกไม่รู้จักคิดหานวัตกรรมอื่นมาทำให้เป็นเงิน ทุกวันยังมีหน้ามาช้อนขี้มาเฟ้นหาเศษเงินอีก ไม่รู้ไอ้พวกเวรนี่ให้เข้าตลาดหลักทรัพย์ไปได้ยังไง พวกสถาบันทางการเงินพวกนี้ หากอยากทำบุญกุศลน่าจะเอาเงินพวกนี้ไปตั้งกองทุนสร้างนวัตกรรมแห่งชาติดีกว่าขายมูลเงินเอนพีแอลพวกนี้ให้มันคุ้ยขยะกินไปเรื่อย คนทุกระดับทั้งปัจเจกผู้ประกอบการรายเดียวและบริษัทที่เป็นนักคิดแต่ไม่มีเงินทุนจะได้มาขยันสร้างนวัตกรรมใหม่ไม่ใช่มีแต่เสียดอกเบี้ยให้นายทุนซื้อรถซื้อบ้านซื้อมือถือนวัตกรรมที่ไม่ใช่ประเทศตัวเองผลิตไปชั่วลูกชั่วหลานอยู่อย่างนี้ พวกคนชั้นกลางและชั้นสูงที่มีเงินจะใช้ใช้นวัตกรรมของประเทศตัวเองบ้าง เอาเงินมาลงทุนทำวิจัยพัฒนาให้นวัตกรรมสู้ตลาดโลกได้ อย่างนี้สู้พวกประเทศที่พัฒนาคนเก่งๆได้หมดแหละ
พูดเรื่องจูงใจหน่อยเพราะเคยอยู่ฝ่ายบุคคลกับงานขายการตลาดมาเหมือนกัน การให้รางวัลการเดินทางไปต่างประเทศต้องเป็นการท่องเที่ยวพักผ่อน ไม่ใช่การไปทำงานคือการให้รางวัล บ้าไปกันใหญ่แล้ว เที่ยวคือเที่ยว งานคืองาน และต้องผลัดเปลี่ยนกันไปผู้บริหารที่รับผิดชอบเรื่องนั้นตัดสินใจได้ต้องไปในเรื่องงานการประชุมเจรจา ไม่ใช่ส่งลิ่วล้อไปจดบันทึกรายงานศึกษางานอยู่นั่น ซ้ำซาก คนเก่าไปสักสิบประเทศในหนึ่งปีนายไม่เคยไปเลยตัดสินใจไม่ได้ กว่าจะได้เงินได้โครงการใช้เวลาหลายเวที ไม่มีอำนาจต่อรอง ไม่ใช่กรรมการระดับนโยบายระดับชาติร้อยแปด ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆอย่างแท้จริง บางเวทีที่พวกคู่แข่งคู่เจรจามันจ้องจะเอาเปรียบทุกวิถีทาง ลิ่วล้อตัดสินใจไม่ได้ ไม่มีใครฟังเสียงตัวแทนของพวกบ้านนอกชนบทประชาชนหาเช้ากินค่ำเพราะพวกนายทุนของบางประเทศจะพูดเอาประโยชน์แต่พวกนายทุนของตัวเอง ของอย่างนี้พวกเราชาวรากอ่อนและรากกลางรวมทั้งทุนรอนจากรากใหญ่ต้องรวมหัวกันที่จะต้องออกกฏระเบียบเพื่อรักษาประโยชน์ของประชาชนหัวคิดสมองของประชาชนไม่ให้ถูกคนอื่นชาติอื่นเอาเปรียบ นักฏหมายกรรมการสภาบนสภาล่างต้องลุกขึ้นมาทำกฏระเบียบกฏหมายจะระดับท้องถิ่นของประเทศตนก่อนให้รีบทำ รอให้พวกบางประเทศมันเตะถ่วงอยู่เช่นนั้นได้อย่างไร รังแต่จะทำให้นักคิดเพื่อให้ประโยชน์แก่การรังสรรคและนวัตกรรมที่ควรเป็นของประเทศตัวเองโดนฉวยเอาไปผ่านทางไซเบอรสารพัดวิธีหาว่าเป็นพับลิคโดเมนสาธารณะ บ้าแท้ทำเป็นไม่เดียงสาไม่รู้จะรอให้ชาวบ้านที่โดนปล้นความคิดไอเดียใหม่ๆมาร้องเรียนให้จนฉิบหายขาดทุนแล้วจึงจะไปจัดการให้ขั้นตอนยืดยาดอืดอาดไม่ทันกินค่าชดเชยไม่คุ้มกับที่ลงทุนโดนพวกบริษัทใหญ่เอาเปรียบ ในขณะที่ประเทศที่มันจดทะเบียนให้ชาวบ้านตัวเองหากินจากไอเดียของตัวเองจนเกิดยี่ห้อแข่งกับไอ้พวกยี่ห้อใหม่ในพวกคู่แข่งฝ่ายตรงกันข้ามเช่นเครื่องสื่อสารแบบนี้ทางประสบความสำเร็จระเทศฟากตะวันตกทำได้ พวกทางตะวันออกก็ทำได้ ต้องอาศัยการสกัดไม่ให้รู้ความลับทางการค้ากันหมดป จนขายดียอดใกล้เคียงในเวลาเดียวกัน ขายได้ถูกราคาแบบทางค่าเงินตะวันออกก็ยังได้
ได้แต่รอว่าอย่าไปออกหน้าให้นายทุนนัก น่าจะแบ่งแปดสิบเปอรเซนของพวกแหล่งทุนในตลาดหลักทรัพยมาไว้เป็นทุนสำหรับนักนวัตกรรมที่รายได้ในบัญชีพวกตลาดทุนไม่ปรากฏว่าจะเงินพอ เข้าถึงแหล่งทุน เช่นสมมุติต้องการฟารมกบแต่ไม่มีเครื่องมือทางไซเบอรว่าจะหาตลาดว่าควรส่งกบไปขายที่ตลาดไหนจังหวัดไหนประเทศไหนใครจะซื้อ ดังนั้นพวกแหล่งเงินทุนต้องช่วยเรื่องตลาดด้วยเป็นการประกันรายได้ล่วงหน้าไปในตัว ไม่ใช่ดัดจริตให้ที่ปรึกษาการเงินรุ่นเด็กมาตัดสินใจแทนชาวบ้านพวกป้าลุงที่ต้องการทำให้มันเติบโตเพื่อลูกหลานว่าฉิบหายแน่ไม่ให้ถึงแหล่งทุนหรอก ให้แต่พวกที่ตบแต่งบัญชีสร้างหน้าร้านผลประกอบการและพวกที่รวมหัวเป็นหุ้นส่วนจอมปลอมแต่เข้าถึงแหล่งทุนคราวละสิบล้านบาทร้อยล้านแสนล้าน แต่ทุนรายย่อยหลักล้านไม่เกินห้าล้านไม่มีปัญญาปล่อยเข้าถึงแหล่งทุนอ้างแต่รายได้น้อยเฮงซวยจริงๆพนักงานวิชาชีพแรงงานมีฝีมือบางพวกเช่นพวกที่ทำงานรับใช้บริษัทต่างชาติต้องลุกขึ้นมาประกาศและให้คำมั่นว่าขอทำงานเอกชนไปจนตายลูกหลานก็จะไม่ให้ทำงานภาครัฐเพราะโดนเอาเปรียบทั้งเรื่องค่าแรงและสวัสดิการโดนพวกทุจริตเชิงนโยบายเอาเปรียบชาวบ้านจนฉิบหายหมด พวกกลุ่มออมทรัพยระดับล่างปล่อยกู้ส่วนบุคคลแค่รายละหมื่นละแสนกระจอกอย่างนี้โดนนายทุนแย่งตลาดไปหมด ไอ้พวกที่เข้าถึงแหล่งทุนสูงๆพวกนี้ได้เงินสบล้านร้อยล้านสร้างโรงงานแล้วเอาเงินไปจ้างชาวบ้านมาเป็นลูกจ้างเท่านั้น นอกเหนือส่วนต่างเอาเงินพวกนี้ไปเสพสุขธุระส่วนตัวของตนดีกว่าเช่นภาระที่จะสร้างหน้าตาในบ้านของตัวหรือ บริหารจัดการบนความลำบากเอาเปรียบค่าแรงลูกจ้างเป็นต้น อะไรแบบนี้ ประกันล่วงหน้าบางอย่างต้องมีลูกค้ามารอมีคนซื้อผูกสัญญารอแล้วล่วงหน้า ไม่ใช่จ่ายเงินมาหมื่นเดี่ยวแต่ต้องใหเขาทำครบวงจรเช่นจ่ายมาห้าล้านบาทคนที่เขามีที่ดินแหล่งทุนทำเลดีๆเขาจะได้ทำกินในที่ดินของเขาหรือมีความคิดริเริ่มจากทรัพยสินทางปัญญาต้องแข่งได้ในตลาด เช่นทำโรงแรมเฉพาะคนรักกบหรือพิพิธภัณฑ์กบโลกในรีสอรตโรงแรมบูติคบ้านรูปใบบัว ชมวิถีชีวิตสำหรับการเพาะกบหลากสายพันธเพื่อเป็นกบเลี้ยงเอคซอติคหรือกบกินได้ มีโรงแรมแผงไข่กบ หรือการเพิ่มมูลค่าสินค้าทุกชนิดทุกวิถีทางในวงเงินสูงคุ้มกับราคาที่ดินที่คนพื้นบ้านเขาเป็นเจ้าของดั้งเดิมหน่อย ไม่ใช่โยนเศษเงินประชานิยมมาครัวเรือนละสองพันหรือร้อยบ้านจะได้แต่พวกในหมู่บ้านจัดสรรที่มีแต่พวกเอาเงินสถาบันการเงินในตลาดหลักทรัพยมากินใช้ฉิบหายไปบ้างก็ไม่เป็นไรเพราะรายได้ต่อเดือนจากบริษัทนายทุนจ่ายค่าใช้สมองเอาเปรียบปประชาชน ไม่เคยกังวล พวกบริษัทตลาดหลักทรัพยที่เอาเปรัยบประชาชนส่วนใหญ่ มันมีมาก ประเภทผู้ประกอบการรายเดียวอย่างกลุ่มออมทรัพยที่ปล่อยกู้สูงแค่หลักแสนจะไปสู้พวกสถาบันการเงินที่ปล่อยพวกเดียวกันกู้เป็นหลักล้านได้อย่างไร ขอให้มันฉิบหาย ไอ้พวกเอาเปรียบชาวบ้านที่มีภูมิปัญญาแต่รายได้ต่ำ พวกหุ้นส่วนพวกนี้ขอให้โดนพวกขายชาติตัวเป็นรากประเทศนี้แต่กินเงินประเทศอื่นที่จ้างมาให้มันวอดวายไม้ได้ผุดได้เกิด คนพวกนี้รวยล้นประเทศซานกลับไปประเทศที่ตัวหนีมามันยังตะเพิดใส่ไม่ให้กลับมาเอาเปรียบประชาชนรากเง่าของตัวเอง กลายเป็นงานพิเศษของคนบางประเภทที่ต้องหาแผ่นดินใหม่อยู่ประเทศใหม่ๆหรือแยกประเทศอะไรก็ได้ขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ทรัพยากรของประเทศนั้นจนหมดสิ้นโยกเงินไปไกลๆ แล้วให้ประชาชนประเทศนั้นออกมาร้องแรกแหกกะเชอ ขับไล่ไปให้พ้นๆ กินโกงคอรัปชั่นจนชาวบ้านเหลือแต่กระดูก เห็นมีอยู่เรื่อยน่าเบื่อเกิดขึ้นพร้อมๆกันในโลกช่วงนี้ด้วย เสือกรวยใช้เงินอวดพวกคนจนมากกลายเป็นช่องว่างเห็นชัด ทำนวัตกรรมออกมาขายแข่งกันมียี่ห้อของตัวเองเสียบ้างของใหญ่ๆน่ะเช่นรถดังๆ ไม่ใช่อยากรวยยอมขายของตัวเองเอาไปขายแบรนเขาไปหมด โดนเขามาเทคโอเวอรไปหมด
การให้ความรู้แก่ประชาชนให้ป้องกัน เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่ว่าตัวเองมีส่วนได้เสียกับพวกที่เอาทรัพยสินทางปัญญาของคนในประเทศตัวผ่านทางไซเบอร เอาไปดัดแปลงทำเป็นสินค้าเอากลับมาขายประเทศต้นทางที่เอาแหล่งข้อมูลเขาไปแล้วอย่างนี้ การที่มาทำการไล่จับเขาทางอาญาทางแพ่งเป็นเรื่องไม่ถูก พวกสมบัติของประเทศตัวเองตัวเองต้องหวงแหน ไม่ใช่เอาความคิดของคนในประเทศตัวเองได้ตลาดสถิติทางการตลาดไปแล้วทำสินค้ามาขายเราอีก บางทีขนเอาวัตถุดิบเป็นสารสารพัดเช่นครีม สมุนไพรเป็นบาวด บรรจุแบบลอตใหญ่ ออกไปต่างประเทศ กลับมาขายใส่กระปุกยี่ห้อของตัวเอง เวลานำออกไปถูก ยิ่งงานฝีมือขนออกไปถูกๆ ติดยี่ห้อตัวเองกลับขายแพง ไอ้บ้าประเทศที่เพิ่งถูกขโมยวัตถุดิบความคิดของตัวเองแห่เแจ้นซื้อกลับเข้าประเทศมาอีกแล้ว อนิจจัง
เวลาของการละเมิดสารพัดใกล้จะหมดหรือยังหนอ โลกของเราเจอภาวะโลกแปรปรวนย่ำแย่นะ
Sugar and time of WIPO Retreat in thailand,we need intelligence information and wisdom local specific intellectual ICT protect law..do not wait until they got and access all your resources for trade or industries...you need IP law for no infringe local and your nation creative or innovative protection law...
http://www.teca.co.th/index.php/ppt.html
UN: Unprecedented climate change
รายนามคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
(ภาคเอกชน)
1. บริษัท ซีเล็คทีฟ เทรดมาร์ค ยูเนี่ยน (ไทยแลนด์) จำกัด
2. สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจบันเทิงไทย 3. บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด 4. สมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย 5. บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) 6. สมาคมอุตสาหกรรมเพลงไทย 7. บริษัท ลิขสิทธิ์ เซ็นเตอร์ จำกัด 8. บริษัท ลิขสิทธิ์เพลง จำกัด 9. บริษัท โอไร้อัน อินเว็สทิเกชั่น จำกัด 10. กลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟท์แวร์ (BSA) 11. บริษัท ควันติโก (QUANTICO) จำกัด 12. บริษัท เราส์ แอนด์ โค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 13. บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) 14. บริษัท วิสิฐล็อค จำกัด 15. บริษัท ยูไนเต็ด โฮม เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ในเครือ บริษัท แคททาลิสท์ จำกัด
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ข้อบังคับ
ของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
(ภาคเอกชน)
หมวดที่ 1 บทความทั่วไป
ข้อ 1. ชื่อของคณะกรรมการ นี้มีชื่อว่า “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ภาคเอกชน)”
เขียนชื่อเป็นอักษรภาษาอังกฤษว่า “PREVENTION AND SUPPRESSION OF INTELLECTUAL PROPERTY INFRINGEMENT COMMITTEE (Private Sector)” ข้อ 2. สำนักงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ภาคเอกชน) นี้ตั้งอยู่ที่ 203/18-20 ซอยลาดพร้าว 15 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 ตู้ ป.ณ. 14 สามแยกลาดพร้าว 10901 โทรศัพท์ 0 2938 6798 โทรสาร 0 2938 5583 ข้อ 3. ตราของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ภาคเอกชน) มีเครื่องหมายดังข้างบนนี้
หมวดที่ 2
วัตถุประสงค์
ข้อ 4. วัตถุประสงค์ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ภาคเอกชน) มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
(1) ประสานงานกับภาครัฐในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้มีประสิทธิภาพ (2) เผยแพร่ความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญาต่อสาธารณชนเพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (3) สนับสนุนและช่วยเหลือสมาชิกแก้ไขอุปสรรคข้อขัดข้องต่าง ๆ รวมทั้ง ติดต่อและประสานงานกับภาครัฐเพื่อประโยชน์ร่วมกันในการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (4) ให้คำปรึกษาแนะนำช่วยเหลือสมาชิกเกี่ยวกับการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและเผยแพร่ความรู้อันเกี่ยวกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาให้กับประชาชนโดยทั่วไป รวมทั้งทำการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐบาล, องค์การเอกชนและกลุ่มผลประโยชน์หรือคณะผู้แทนอื่น ๆ (5) ประสานความสามัคคีและแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นซึ่งกันและกันในทางวิชาการข่าวสารตลอดจนการวิจัยเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (6) ขอสถิติหรือเอกสารหรือขอทราบข้อความใด ๆ จากสมาชิกเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (7) ร่วมมือกับรัฐบาล ในการส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้สอดคล้องกับนโยบายของทางราชการ (8) แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างสมาชิก เพื่อนำความรู้และประสบการณ์ไปใช้ในการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น (9) ทำความตกลงหรือวางระเบียบให้สมาชิกปฏิบัติหรืองดเว้นการปฏิบัติเพื่อให้การดำเนินการของคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา (ภาคเอกชน) เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (10) ส่งเสริมพลานามัย กีฬา และจัดงานบันเทิงเป็นครั้งคราว (11) ประนีประนอมข้อพิพาทระหว่างสมาชิก (12) ให้ความอนุเคราะห์แก่สมาชิกในด้านงานสวัสดิการเท่าที่จำเป็นและเหมาะสม
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
|
Last Updated on Wednesday, 12 January 2011 16:28 |
05 Jul 13 |
กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
คุณค่าและโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนของคนจน รายละเอียดแนบ |
Attachment : 5-11กค56_กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตคุณค่า.pdf
(กดปุ่มขวาของ mouse ที่ชื่อ file, หากต้องการพิมพ์หรือ save
file) Posted By : นางสาวนวพร พิมพา [กองประชาสัมพันธ์ กรมการพัฒนาชุมชน] - 05 Jul 13 10:42 |
การป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
กรณีถูกจับกุม มีข้อพิจารณาดังนี้
(1) กรณีถูกดำเนินคดีอาญา ผู้ถูกจับย่อมมีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะขอตรวจดูเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการกระทำใด ๆ อันกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของตนเอง
(2) การค้นในที่รโหฐานจะต้องมีคำสั่งหรือหมายศาล มาแสดงก่อนจึงจะทำการค้น (3) ของกลางในคดีละเมิดลิขสิทธิ์ที่ถูกยึดหรืออายัด คือ เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดเท่านั้น เช่น คอมพิวเตอร์ที่บันทึกเพลงละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นต้น (4) กรณีตกเป็นผู้ต้องหาย่อมมีสิทธิ์ ดังนี้ ก. สิทธิ์พบและปรึกษาผู้ที่จะเป็นทนายความสองต่อสอง ข. สิทธิ์ได้รับการเยี่ยมตามสมควร ค. สิทธิ์ได้รับการรักษาพยาบาล โดยเร็วเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วย ง. สิทธิ์ขอทราบข้อกล่าวหาในการกระทำความผิด เนื่องจากบุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับการความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกันโดยไม่เลือกปฏิบัติ (5) การประกันตัวผู้ต้องหา หลักฐานที่ต้องนำมาใช้ในการประกันตัวผู้ต้องหา คือ โฉนด ที่ดิน เงินสด หรือบุคคลที่เป็นข้าราชการพลเรือนตำแหน่งระดับ 6 ขึ้นไป กรณีนี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2546 ให้ถือปฏิบัติห้ามไม่ให้ข้าราชการประกันตัวผู้ต้องหาในคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
หลักเกณฑ์เบื้องต้นในการพิจารณาสินค้าลอกเลียนแบบ
การพิจารณาสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเบื้องต้น 3 ประการ ดังนี้
1. สถานที่จำหน่ายสินค้า
1.1 กรณีสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า
สินค้าของแท้จะวางขายตามร้านค้าที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าที่มีหลักแหล่งเป็นที่แน่นอน เช่น ในห้างสรรพสินค้า ดิเอ็มโพเรี่ยม สยามพารากอน และเกษรพลาซ่า เป็นต้น สินค้าของปลอมหรือลอกเลียนแบบจะวางตามร้านค้าหรือแผงลอยริมฟุตบาท ตามแหล่งท่องเที่ยวหรือตลาดเปิดท้ายขายของ หรือวางโชว์เฉพาะแคตตาล๊อคสินค้าให้ลูกค้าเลือกซื้อ
1.2 กรณีสินค้าลิขสิทธิ์
สินค้าของแท้จะวางขายตามร้านค้าหรือแผงลอยที่มีหลักแหล่งเป็นที่แน่นอน มีเอกสารการจดทะเบียนพาณิชย์ ใบร้านค้าสินค้าลิขสิทธิ์ และใบอนุญาตค้าของกรมส่งเสริมวัฒนธรรมแสดงที่ร้านค้าหรือแผงลอย
สินค้าของปลอมส่วนมากจะวางโชว์ปกให้ลูกค้าเลือกซื้อ โดยให้จ่ายเงินก่อน และให้รอรับสินค้าประมาณ 10– 15 นาที หรือสะกิดขาย หรือในบางพื้นที่จะวางโชว์สินค้าของแท้ปะปนกับของปลอม
2. คุณภาพของสินค้า
2.1 กรณีสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า
สินค้าของแท้จะใช้วัสดุที่มีคุณภาพในการผลิต การผลิตมีความปราณีตและมีการตรวจสอบคุณภาพก่อนนำสินค้าออกวางจำหน่ายในท้องตลาด จึงเป็นสินค้าที่มีมาตรฐานตามเกณฑ์ของผู้ผลิตแต่ละราย จึงมีความสวยงาม แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน
สินค้าของปลอมหรือลอกเลียนแบบจะใช้วัตถุดิบที่ไม่มีคุณภาพมาใช้ในการผลิตไม่มีความปราณีตในการผลิตจึงขาดความแข็งแรงทนทานและมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่า
2.1 กรณีสินค้าลิขสิทธิ์
สินค้าของแท้กรณีเป็นแผ่นซีดีส่วนใหญ่ จะเป็นแผ่นปั๊มจากโรงงาน ปกกระดาษจะมีสีสดคมชัด ภาพคมชัด กล่องบรรจุมีรูปทรงสวยงาม มีโลโก้หรือสัญลักษณ์ของผู้ผลิตอยู่บนแผ่นรวมทั้งระบุแหล่งผลิต
สินค้าของปลอมหรือลอกเลียนแบบส่วนใหญ่จะเป็นแผ่นไรท์จากเครื่องคอมพิวเตอร์ และใช้แผ่นสติ๊กเกอร์ปิดบนแผ่นซีดีแทนการพิมพ์สี ปกใช้วิธีถ่าย เอกสารมีสีไม่คมชัด ส่วนใหญ่บรรจุอยู่ในซองพลาสติก ไม่มีโลโก้หรือสัญลักษณ์ของผู้ผลิตอยู่บนแผ่นรวมทั้งไม่ระบุแหล่งผลิต
3. ราคาสินค้า
3.1 กรณีสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้า
สินค้าของจริงเป็นสินค้าที่มีต้นทุนในการประดิษฐ์คิดค้น ใช้วัสดุคุณภาพดี มีต้นทุนในการโฆษณาสินค้า และต้องเสียภาษีถูกต้องตามกฎหมาย จึงมีราคาสูง
สินค้าของปลอมหรือลอกเลียนแบบไม่มีต้นทุนด้านทรัพย์สินทางปัญญา ไม่มีต้นทุนในการโฆษณาสินค้า ใช้วัสดุคุณภาพต่ำ และไม่เสียภาษี จึงมีราคาถูกกว่าสินค้าของแท้เป็นอย่างมาก
3.2 กรณีสินค้าลิขสิทธิ์
สินค้าของจริงมีต้นทุนในการสร้างสรรค์ผลงาน ต้นทุนในการผลิตผลงาน ต้นทุนในการโฆษณา และต้องเสียภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งผลงานลิขสิทธิ์ไม่ใช้ประสบความสำเร็จในทุกชุดหรือทุกอัลบั๊ม ราคาสินค้าที่จำหน่ายจึงมีราคาสูง
สินค้าของปลอมหรือลอกเลียนแบบไม่มีต้นทุนในการสร้างสรรค์ ไม่มีต้นทุนในการผลิตผลงาน ไม่มีต้นทุนในการโฆษณา ไม่เสียภาษี และลอกเลียนเฉพาะสินค้าที่ประชาชนเป็นที่นิยมเท่านั้น สินค้าที่ผลิตใช้วัสดุคุณภาพต่ำจึงมีราคาถูกกว่าสินค้าของแท้เป็นอย่างมาก
ละเมิดV. infringe def:[ฝ่าฝืนจารีตประเพณี หรือกฎหมายที่มีบัญญัติไว้] syn:{ฝ่าฝืน}{ขัดขืน} sample:[แม้บางคนจะชอบละเมิดคำสอนในศาสนา แต่ใจเขาก็ยังเคารพอยู่] V. infringe def:[จงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์สิน หรือสิทธิ] syn:{ล่วงเกิน} sample:[ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้ผลิตสินค้าของไทยบางส่วนได้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ ซึ่งประมาณการไว้ว่าสูงถึง 800 เหรียญสหรัฐ] MSD-Glenmark case replay of Bayer-Cipla patent feud
Jayati Ghose : New Delhi,, Sat Apr 13 2013, 10:00 hrs
ลงประกาศซื้อขาย เช่า ฟรี www.ddproperty.comกับเว็บอสังหาฯอันดับ 1 ของไทยที่มี ยอดผู้เข้าชมกว่า 1 ล้านคนต่อเดือนAds by Google
In the 2010 Bayer-Cipla case on "patent linkage", a single-judge bench of the Delhi High Court and, subsequently, a division bench had refused to ask the government to link the patent status of a drug to grant of marketing approval for generic versions.
The former said the "courts were not expected to fill the gaps in public policy spaces" and the latter not only reiterated that stance but also saw merit in the contention that patent linkage is a "TRIPS-plus" concept. Nevertheless, the issue, which is of great import to enforcement of patent rights in India, has engaged the court again, in what could provide a ray of hope to multinational pharmaceutical companies.
The high court on Friday sought the response of Mumbai-based Glenmark Pharmaceuticals on US drug major Merck Sharp and Dohme's (MSD) appeal against the single-judge bench order a week ago refusing to restrain the Indian firm from manufacturing and selling anti-diabetes drugs brand-named Zita and Zita-Met. MSD had argued that Glenmark violated its patents in India for drug products Januvia and Janumet (containing the molecule sitagliptin) and said that the drug regulator's decision to give marketing approval for Glenmark's products virtually facilitated the alleged patent infringement.
The single-judge bench had earlier said that though the plaintiff (MSD) had not made out a case for grant of interim relief, but added that its observations in the interim order would not have any bearing on (what would be) the final decision in the matter. Pertinently, the Bayer-Cipla case is pending consideration of the court on the patent infringement aspect, which, according to legal experts, can't be extricated from the issue of linkage in this case (the Supreme Court had disposed of a special leave petition filed by the German major, leaving the question for the high court to deal with the patent infringement suit).
- See more at: http://www.indianexpress.com/news/msdglenmark-case-replay-of-bayercipla-patent-feud/1101684/#sthash.dm1Aorwt.dpuf
Some of the most egregious forms of plagiarism are perfectly legal. Fans of indie nerd troubadour Jonathan Coulton were infuriated to discover that the Fox TV programme Glee had "ripped off" his distinctive arrangement for "Baby Got Back," which includes new lyrics and sound effects that are unique to Coulton's version.
Fox stonewalled, then Glee music producer Alex Anders tweeted: "Some people can't see opportunity when it smacks them in the face." (it seemed clear at the time that Anders was commenting on Coulton, though he later deleted the tweet and claimed it was a comment on an unrelated issue). Close analysis of the two pieces is especially damning, as it sounds and looks as though Fox's version actually uses parts of Coulton's recording, mixed down to cut out the vocals.
Copyright experts were quick to explain that Fox's plagiarism was legal – the same rules that allowed Coulton to record his cover of Sir Mix-a-Lot's original "Baby Got Back" also allow Fox to produce a sound-alike version. But it's shoddy, because it is, at heart, a lie.
(Coulton got his own back on Fox: he rereleased his own "Baby Got Back" and billed it as a cover of the Glee version, with proceeds to charity – it climbed the iTunes chart while the Fox version was clobbered by angry Coulton fans who gave it one-star reviews)
Why does Fox's sin stick in the internet's craw? I think it's because Fox hasn't just wronged Coulton: they've wronged the public. We have been misled about the origin of a product we're being asked to purchase.
This is different from, say, a fake designer handbag that's offered as a cheap knockoff, where there's no intent to fool the purchaser, who understands that a 99% discount on a Vuitton bag means that it's really a "Vuitton" bag.
This kind of plagiarism is more like selling horsemeat labeled as beef burgers. Horsemeat can be perfectly harmless, and many people happily eat it, but when you buy beef burgers, you expect that you're getting what you paid for.
Plagiarism evokes the same outrage even when the only thing at stake is attention. Users of Reddit hold especial contempt for people who post others' art as their own in order to get "upvotes" and "karma" – intangible, non-redeemable measures of internet applause from strangers.
When this happens, a consensus quickly emerges that the culprit is a bad person, that the attention has been misappropriated. The real artist has been wronged – she didn't get the upvotes, attention and good feeling she deserved. But so has anyone who was conned into believing the misattribution, and so missed the chance to discover more works by the real artist.
For me, the most interesting thing about plagiarism is that even though it's legal, companies and people who do it get into real trouble for it.
Even without a law, doing something that is so universally reviled has genuine, lasting consequences. There's a lesson in there for people looking to find the right balance for internet copyright: a law without public support will be widely flouted, but things that the social consensus rejects out of hand be automatically, widely enforced.
This article originally appeared on guardian.co.uk
Putin throws down Obama |
No comments:
Post a Comment